รูปหล่อหลวงปู่ทวด รุ่นเบตง พุทธคุณครอบจักรวาล ผู้ใดแขวนไม่ตายโหง

วัตถุมงคล หลวงปู่ทวด “รุ่นเบตง” หรือบางคนเรียกว่า “รุ่นเลขใต้ฐาน” ถือเป็นหนึ่งในรุ่นสำคัญของสายวัตถุมงคลหลวงปู่ทวด ที่ได้รับความนิยมและศรัทธาอย่างสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้และผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทวดทั่วประเทศ รูปหล่อหลวงปู่ทวดรุ่นเบตง ออกวัดพุทธาธิวาส อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จัดสร้างปี พ.ศ.2505 หรือรู้จักกันโดยทั่วไปว่า รุ่นท่านสวัสดิ์โชติพานิชสร้าง เป็นหนึ่งในสุดยอดวัตถุมงคล หลวงปู่ทวด ท่านสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลจังหวัด อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ปี พ.ศ.2503 ท่านได้สร้าง หลวงปู่ทวด รุ่นเบตงขึ้น โดยเดินทางไปจุดธูปขออนุญาตต่อหน้าสถูปหลวงปู่ทวด ที่วัดช้างให้ โดยท่านอาจารย์ทิมเป็นผู้เห็นชอบด้วย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการหาปัจจัยสร้างรูปเคารพหลวงปู่ทวด และพระวิหารขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้คนได้สักการบูชาที่วัดพุทธาธิวาส ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา

วัดพุทธาธิวาส เดิมชื่อวัดเบตง ปัจจุบันมีความเจริญรุ่งเรืองและงดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพิธาน พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ

รูปหล่อหลวงปู่ทวดเลขใต้ฐานเบตง 2505 หรือที่เรียกกันว่า “รุ่นเบตง” นั้น นับเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ทวดที่มีความสำคัญมาก ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ เราเรียกรูปหล่อประเภทนี้ว่า “ลอยองค์” หรือ “ลอยตัว” อันเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่สามารถมองเห็นได้ทุกด้าน พระรุ่นนี้เป็นการหล่อแบบโบราณ แต่มีการนำวิธีการที่ทันสมัยเข้าช่วย โดยช่างหล่อที่มีฝีมือเยี่ยมซึ่งหล่อพระกริ่งวัดสุทัศน์เป็นประจำ ชื่อ ช่างจรัส พัฒนางกูร บ้านช่างหล่อ กรุงเทพมหานคร องค์หลวงปู่ทวด มีรูปลักษณะไม่เหมือนกับหลวงปู่ทวดรุ่นอื่นๆ ที่จะมีต้นเค้ามาจากรูปลักษณะของหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน 2497 แต่ผู้สร้างได้นำเอาแบบรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รุ่นปีพ.ศ.2495 ซึ่งสร้างโดยหลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี เป็นต้นเค้า จึงมีเอกลักษณ์พิเศษลักษณะค่อนไปทางเป็นบุคคลมากกว่าบุคลาธิษฐานในจินตนาการ และมีสัดส่วนการสร้างสมดุลอย่างยอดเยี่ยม

โลหะที่นำมาใช้หล่อมีการผสมชนวนโลหะและมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง เงิน ทอง นาก เข้าตำรานวโลหะ ทำให้องค์พระมีเนื้อเป็นนวโลหะสามารถกลับมาดำได้เมื่อโดนสัมผัสหรือโดนอากาศ ในการเทหล่อนั้นทำเป็นช่อแล้วตัดจากช่อมาบรรจุผง แล้วอุดก้นอีกทีหนึ่ง แต่ฝีมืออุดประณีต ของแท้รูอุดจะเรียบไปกับใต้ฐาน ผงที่ใช้อุดเป็นว่านหลวงปู่ทวดปี 2497 มีบางส่วนจำนวนน้อยที่ไม่ได้ตัดออกจากช่อ

ในการเททองและควบคุมการหล่อนั้น มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นผู้ควบคุมและอธิษฐานจิต โดยมี อาจารย์เทพ สาริกบุตร เป็นผู้คำนวณและให้ฤกษ์ยาม หลังจากอุดก้นตอกโค้ดเสร็จก็จัดส่งไปร่วมพิธีปลุกเสกโดยท่านอาจารย์ทิม ที่วัดช้างให้ ปัตตานี

พระรุ่นนี้สร้างทั้งหมดประมาณพันองค์ มีการตอกโค้ดใต้ฐานโดยใช้ตัวตอกเลขอารบิก เรียงตั้งแต่องค์ที่ 1 จนถึง 999 แต่โค้ดที่ตอกใช้ชุดเดียวคือเลข 0 ถึงเลข 9 ดังนั้นบางองค์ช่างหยิบโค้ดเลข 9 ตอกกลับหัวแทนเลข 6 และถือเป็นหลักในการดูได้ เพราะโค้ดตอกมีแค่เก้าตัว ตัวเลขทุกองค์จึงต้องมาจากตัวตอกตัวเดียวกันถ้าพระสององค์เลขเดียวกันแต่ไม่เหมือนกันก็ต้องเก๊องค์แท้องค์หรือเก๊ทั้งคู่ และตัวเลขจะคมชัด ให้ใช้กล้องส่องดูในเส้นตัวเลขที่เป็นเส้นหนานั้นจะมีทิวเส้นคมๆ กดลงไปในเนื้อพระ พอตอกได้ 999 องค์ก็หยุดตอก จึงมีบางส่วนประมาณ 200 องค์จะไม่มีโค้ดตัวเลขใต้ฐาน

เนื่องจากเป็นพระหล่อรายละเอียดแต่ละองค์จะไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่มีข้อสังเกตที่เหมือนกันคือ องค์พระนั่งค้อมไหล่น้อยๆ, เส้นหน้าผากแนวขวางต้องคมชัด, ไหล่ซ้ายหลวงปู่ต่ำกว่าไหล่ขวา, เบ้าตาลึก, จมูกโด่ง, หากมองจากด้านหน้าตรงๆ สามารถเห็นหลังใบหูส่วนบนได้ และมีน้ำหนัก นอกจากนี้ องค์พระยังผ่านการแต่งเล็กน้อยจึงเป็นข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง

รูปหล่อหลวงปู่ทวด รุ่นเบตง วัดพุทธาธิวาส อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จัดสร้างปี พ.ศ.2505 องค์หลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐาน โดยไม่มีบัวคว่ำ บัวหงาย กระแสเนื้อบนพื้นผิวจะออกกระแสแดง เมื่อได้สัมผัสการใช้ผิวจะออกดำ ใต้ฐานจะตอกหมายเลข 1-999 เป็นเลขอารบิกคมชัดทุกองค์ ที่ใต้ฐานจะเห็นรอยปิดก้นซึ่งบรรจุผงเนื้อว่านไว้ ด้วยโลหะชนิดเดียวกันอย่างแนบเนียน โดยได้ต้นแบบมาจาก “รูปหล่อลอยสมเด็จพระพุฒาจารย์” (โต พรหมรังสี) ที่สร้างโดย หลวงปู่นาค เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามสมัยนั้น ที่ท่านสวัสดิ์ได้มาด้วยความบังเอิญในขณะที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ท่านจึงใช้เป็นต้นแบบในการสร้างพระหลวงพ่อทวด ด้านพุทธคุณของพระหลวงปู่ทวดนั้นครอบจักรวาล โดยเฉพาะแคล้วคลาดและนิรันตราย หรือที่ส่วนใหญ่มักพูดกันว่า “แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง”

ดูความคมชัดเป็นหลัก จำใบหน้า จำพิมพ์ให้แม่น รูปหล่อหลวงปู่ทวด รุ่นเบตง ปี 2505 เป็นพระหล่อโบราณตีหุ่นเทียนและเทด้วยดินไทย ผิวนวโลหะแก่มวลสารวรรณออกแดงเข้ม ตามซอกมีคราบยาขัดสีแดงๆ

ด้านหลังดูพื้นผิวนวโลหะแก่มวลสารวรรณออกแดงเข้ม ตามซอกมีคราบยาขัดสีแดงๆ

ด้านข้างจะเห็นมีรอยประกบพิมพ์ เป็นพระหล่อโบราณตีหุ่นเทียนและเทด้วยดินไทย

ใต้ฐานก้นมีรอยตะไบแต่งเก็บงานเล็กน้อย อุดก้นฝีมืออุดประณีตเรียบไปกับใต้ฐาน จะมีตอกหมายเลข 1-999 เป็นเลขอารบิกคมชัดทุกองค์ องค์ที่มีเลขใต้ฐานให้สังเกตในตัวเลข องค์นี้เป็นองค์ที่ 476 ภายในตัวเลข 4 มีรอยฟันเลื่อยหยักขีดๆ คม เลข 7 มีเส้นซ้อนข้างใน และมีก้อนเนื้อเกิน เลข 6 มีเสี้ยนขวางๆ คมชัดเจน