ปริศนาบล็อกแม่พิมพ์ ขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ความลับที่ไม่มีใครรู้

สยามออราเคิล โดยครูเชฟ |

บทความRSS Feedนี้ จาก Thairath.com

ความลับของพระขุนแผนผงพรายกุมารมหาภูติครึ่งเทพ พิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก ทั้งบล็อกแรกและบล็อกสอง ที่วงการนักเล่นหลายคนไม่เคยรู้ สับสนและกังขาถกเถียงกันมานาน

พระขุนแผนที่วงการนักเล่นเรียกชื่อว่า “พระขุนแผนบล็อกสอง หรือ พระขุนแผนบล็อกประสบการณ์” จริงๆ แล้วแม่พิมพ์หน้าและหลังของบล็อกนี้คือ บล็อกเดียวกันกับบล็อกลองพิมพ์ หรือเรียกอีกชื่อว่า “บล็อกหินมีดโกน”

สังเกตได้ง่ายโดยเฉพาะด้านหลังใช้แม่พิมพ์เดียวกัน ตัวอักษรคำว่า “หลวงปู่ทิม” เป็นหัวตัน ส่วนพิมพ์บล็อกนิยมนั้นเป็นคนละบล็อก ซึ่งตัวอักษรหลวงปู่ทิมเป็น หัวทะลุ

แต่ในชุดพระขุนแผนลองพิมพ์ (หินมีดโกน) ที่ลุงแมงกดในปลายปี พ.ศ. 2516 เป็นเนื้อผสมน้ำมันอาถรรพ์ทำให้เนื้อผงกลับเป็นสีน้ำตาล ผงบรอนซ์ทองปฏิกิริยากับน้ำมันจึงทำให้บรอนซ์เน่าตายไม่ผ่องเป็นสีทองอมส้มหรือออกสีทองอร่ามเหมือนบล็อกนิยม (บล็อกทองเหลือง) บรอนซ์ทองมีทั้งตราอูฐและตราหัวกวาง ปัจจุบันเลิกผลิตไปนานแล้ว

แต่ฟอร์มพระขุนแผนบล็อกสอง (บล็อกแรกหินมีดโกน) พิมพ์ใหญ่นั้น มี 2 ฟอร์ม อีกฟอร์มหนึ่ง เซียนรุ่นเก่าเรียกว่า “บล็อกกระเทย”! หรือเรียกกันว่า “บล็อก 1/2 หรือ 2/1”

ซึ่งแบบพิมพ์ที่มีความใกล้เคียงกับบล็อกนิยม (บล็อกทองเหลือง) เกิดจากการเซาะแต่งจากบล็อกหินมีดโกนเพิ่มก่อนบล็อกจะตกแตกหัก

แม่พิมพ์ขุนแผนบล็อกสองจริงๆ ก็คือเป็น “บล็อกแรกหินมีดโกน” (ที่เสี่ยตี๋บ้านค่ายตั้งชื่อให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “บล็อกลองพิมพ์”)

หลังจากลุงแมงกดได้ 18 วัน (ประมาณเดือนตุลาคม พ.ศ. 2516) บล็อกได้เปลี่ยนมือผู้กด ระหว่างช่วงเวลานั้น พระอาจารย์บาง วัดหนองกาน้ำได้มาบอกสูตรการทำพระเพิ่มเติมให้การกดพิมพ์พระขุนแผนให้สวยงามขึ้น ทิดฉุย และพระเย็น เป็นผู้ขยันกด (วงการเซียนเรียก ขุนแผนบล็อกสอง) พระชุดนี้มีทั้งสีขาวทาทองไม่ทาทอง มีการใส่สีฝุ่นลงไป เช่น สีเหลือง สีแดง สีดำ สีชมพู เป็นต้น

ส่วนหลวงตารอดนำบล็อกไปกดเป็นเนื้อกระยาสารท (สูตรโบราณไม่ใช่เอาขนมกระยาสารทมาทำ) พิมพ์ทรงมีสองแบบสองช่วงเวลาโดยผลักหมุนเวียนเปลี่ยนมือช่วยกันกดทำ ยามผู้ใดว่างก็ทำ ใครไม่ว่างก็ให้พระและลูกวัดช่วยทำ พิมพ์พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่เนื้อกระยาสารทที่พบมีทั้งแบบ เอวบาง-เอวหนา คล้ายบล็อกนิยม เนื่องจากการเซาะแต่งพิมพ์ พระชุดกระยาสารทด้านหลังไม่ค่อยติดยันต์นัก มีบางองค์เส้นยันต์ห้าขึ้นชัดก็มี (เส้นยันต์ห้าบล็อกหินมีดโกนจะชัดสูงเด่นลอยมากกว่าเส้นยันต์ห้าบล็อกทองเหลือง)

พระขุนแผนที่วงการดันเรียกว่าบล็อกสองในยุคแรกๆ ที่คณะทิดฉุยและพระเย็นสร้าง (ปลายปี พ.ศ. 2516 ถึงต้นปี พ.ศ. 2517) หากส่องกล้องจะมีผงตะไบพระพุทธรูป วัดบ้านเก่า พลอยเสก ผสมลงไปด้วย แต่ไม่มีน้ำมันอาถรรพ์แบบที่ลุงแมงกด

ผมเคยไปหาลุงแมงที่บ้านพร้อมกับเสี่ยตี๋ บ้านค่าย อ.ตุ๋ย บ้านค่าย และ อ.เบญจรงค์ น้ำมันอาถรรพ์นี้เป็นน้ำมันพรายที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกฟอกธาตุจนบริสุทธิ์โดยใส่ขวดไว้ กำชับให้ลุงแมง (บุตรบุญธรรมของหลวงปู่ทิม) นำไปวางไว้ตามทางสามแพร่งเพื่อทำให้ก่อเกิดเป็นตัวเป็นตนโดยการกำเนิดใหม่ นอกจากนี้ยังมีน้ำมันในจอมปลวกคือน้ำมันแต่งทัพของทัพพระเจ้าตากที่มาพักทัพฝังไว้ผสมลงไปในพระขุนแผนชุดลุงแมงอีกด้วย นอกจากมวลสารหลายอย่างนี้ ยังมีผงผีบริวารของมหาภูติผสมลงไปอีกด้วย

ต่อมาท่านหลวงตารอดได้ทำบล็อกหินมีดโกนด้านหน้าตกแตกหักใช้การไม่ได้
เมื่อบล็อกหินมีดโกนทำด้านหน้าตกบิ่นแตกหักแล้ว ใช้การไม่ได้ ทางวัดจึงให้ปลัดเจริญ เพชรนคร นำบล็อกหินมีดโกนไปถอดซิลิโคนทำบล็อกโลหะโดยฟอร์สสปาร์คเป็นบล็อกทองเหลือง ต่อมา อ.ดุษฏี ศิริโวหาร ได้นำแม่บล็อกพิมพ์มาเซาะแต่งแทงเข็มให้ลึกคมล่ำใหญ่สวยงามยิ่งขึ้น

ด้านหลังตัวหนังสือและยันต์มีลักษณะฟอนต์ลอกมาตัวเดียวกันตำแหน่งลอกลายเดียวกัน แต่ได้ใช้เครื่องมือเซาะร่องลึกใหม่ ตัวหนังสือด้านหลัง เช่น คำว่า “หลวงปู่ทิม” จึงเป็นหัวทะลุ ต่างจากบล็อกหินมีดโกนที่เป็นหัวตัน
พระขุนแผนพิมพ์ล่ำใหญ่ (วงการเซียนพระเรียกบล็อกแรกหรือบล็อกนิยม) นี้มีนายครอกและศิษย์ที่วัดร่วมกันกดพิมพ์ทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ นายครอกเคยนำผงพรายกุมารมาผสมตำรวมผงในครกจนเกิดอัศจรรย์ไฟลุกในครกไม่สามารถดับได้ จึงไปตามนิมนต์หลวงปู่ทิมมาดับให้ พระชุดนี้ส่วนใหญ่กดเป็นพิมพ์เล็กเนื้อขาว

การนำธาตุผีตายวันเสาร์เผาอังคาร มีหมอหลาบ จ้อยเจริญ เคยไปผ่าท้องแม่เอาลูกมา และสัปเหร่อยุคเก่า เช่น โยมสาย ที่เป็นศิษย์หลวงปู่ทิมไปนำมาให้หลวงปู่ทิมเช่นกัน โดยหลวงปู่ทิมท่านจะสื่อจิตถึงกับดวงวิญญาณแม่และลูกขอให้มาร่วมบุญกันด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ไปบังคับกักขังดวงวิญญาณ เมื่อครั้งเผาในวันอังคารบนเชิงตะกอนตะแกรงเผาศพ เมื่อเผาเสร็จสิ้น ผีนางพรายได้ให้น้ำมันพรายในการสร้างพระด้วย สัปเหร่อได้ใช้ภาชนะรองรับ นำกระดูกทั้งแม่และลูกมารวมกันผสมในการกดพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ

หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา เคยทักคณะของ อ.ชินพร ว่า “มาวัดทำไมเอาผีมาด้วย ตามมากันเป็นพรวนเลย” อ.ชินพรและเพื่อนๆ ได้ตะลึงงันในคำพูดหลวงปู่ดู่อย่างยิ่ง อ.ชินพรเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า “พระขุนแผนนี้เป็นของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยวัตรงดงาม ฉันอาหารวันละมื้อเดียวและเป็นอาหารเจมาทั้งตลอด การที่หลวงปู่ทิมนำผงพรายกุมารมาทำพระเครื่องเป็นบาปหรือไม่ครับหลวงปู่”

หลวงปู่ดู่ ตอบสวนกลับทันทีว่า “เอ็งอย่าเข้าใจผิด ท่านไม่ได้เอาตัวผู้รู้มาทำ ท่านเพียงเอาธาตุที่ยึดติดด้วยธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ มาทำ ปลุกเสกด้วยวิชาอาคม บังเกิดเป็นตัวเป็นตน ของนี้จึงมีอิทธิฤทธิ์ยิ่ง”

ย้อนกลับไปที่วัดละหารไร่ขณะทำพระเครื่อง คุณพัฒนาได้เห็นหลวงปู่ทิมนำผงพรายกุมารมาใส่ในวัตถุมงคล คุณพัฒนาแคลงใจว่า “หลวงปู่ท่านเล่นผีอีกแล้ว” จึงเรียนถามหลวงปู่ทิมว่า “หลวงปู่เอาผงผีมาทำมันไม่บาปหรือครับ” หลวงปู่ทิมท่านตอบว่า “จะว่าบาปมันก็บาป จะว่าไม่บาปมันก็ไม่บาป…นี่บวชให้หมดแล้ว”

ส่วนขุนแผนพิมพ์เล็ก บล็อกลองพิมพ์ (หินมีดโกน) เป็นคนละบล็อกกับขุนแผนบล็อกสองและบล็อกพิมพ์นิยม

ทางช่างได้ทำพระขุนแผนพิมพ์เล็กบล็อกทองเหลือง แบ่งเป็น 2 ระดับความคมความลึก คือ เซาะแต่งแม่พิมพ์จนล่ำใหญ่ จนเป็นแบบพิมพ์มาตรฐานนิยม

แต่บล็อกสำหรับการกดไม่เพียงพอกับการช่วยกดพิมพ์ ช่างได้นำบล็อกทองเหลืองถอดยางซิลิโคนเป็นตัวผู้ เทฟันยางเหงือกเป็นบล็อกตัวเมีย ถอดบล็อกอีกเป็นสองถึงสามแบบ คือ พิมพ์ตื้นมาก และแบบพิมพ์มาตรฐานแบบบล็อกสอง โดยนำบล็อกฟันยางที่ได้ทั้งหน้าหลังมาเจียรแต่ง โดยเฉพาะด้านหลังด้านล่างขอบใกล้คำวัดไร่วารีบางองค์บล็อกหลังสโลป เพราะเป็นบล็อกยาง ทำให้การกดพิมพ์แลตื้น ช่องบังคับบล็อกข้างมีความหลวมมีช่องไฟ ทำให้เวลากด เนื้อพระจึงปลิ้นด้านหน้าไม่ฟิตเหมือนบล็อกนิยม

ส่วนบล็อก “ขุนแผนบล็อกลองพิมพ์เล็ก” บล็อกไม่ได้ทุบทำลายขณะนั้นแต่ได้นำมาเซาะแต่งพิมพ์เพิ่ม เซาะแต่งบัวใต้ฐานอาสนะองค์พระให้ใหญ่ขึ้น เซาะบัวสามเม็ดบนหัวนางกวักให้ใหญ่ขึ้น และตามส่วนอื่นๆ ของหน้าบล็อก ส่วนด้านหลังไม่มีการแต่งพิมพ์ แล้วคุณเพียรวิทย์ให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกในปี พ.ศ. 2518 เก็บไว้ส่วนตัวและมีจำนวนน้อยมาก วงการเรียกบล็อกนี้ว่า “บล็อกบัวใหญ่”

หลังจากหลวงปู่ทิมมรณภาพทางวัดได้เรียกเก็บและทำลายในพระทุกๆ แบบพิมพ์ เช่น พิมพ์พระสีวลี, พิมพ์พระหัวโต, พระหัวเล็ก (บล็อกทองเหลือง), พรายคู่, นางพญา เป็นต้น

source
ขอขอบคุณบทความและ RssFeedของThairath.com ครับ

สยามออราเคิล โดยครูเชฟ |

Related Posts

ดูดวงรายวันประจำวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 สำหรับท่านที่เกิดวันอาทิตย์

ดูดวงรายวันประจำวันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568 สำหรับท่านที่เกิดวันอังคาร