
บทความRSS Feedนี้ จาก Thairath.com
เหรียญหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต รุ่นแรก ปี พ.ศ.2512 เนื้อทองแดงรมดำ (บล็อกคงเค) วัดอุดมคงคาคีรีเขต
เหรียญหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต (วัดดูน) จ.ขอนแก่น รุ่นแรก จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2512 โดยเซียนพระชื่อดัง ป๋อง สุพรรณเผยราคา 200,000 บาท และเหรียญรุ่นแรก มีจำนวนการจัดสร้างจำแนกพิมพ์ได้ 7 บล็อกแม่พิมพ์ดังนี้
1. บล็อกสระเอคอติ่ง
2. บล็อกสระเอ หรือบล็อกคงเค
3. บล็อกหลวงพ่อผวง
4. บล็อกสระอาหน้าตรงเล็ก
5. บล็อกสระอาหน้าตรงใหญ่
6. บล็อกสระอาหน้าเอียง
7. บล็อกแท๊งค์น้ำ
เหรียญที่นำมาให้ชมเป็น “เหรียญหลวงพ่อผาง รุ่นแรก บล็อกสระเอคอติ่ง” ซึ่งเป็นบล็อกนิยมสุด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่ หูในตัว ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อผางนั่งขัดสมาธิราบเต็มองค์บนอาสนะ มีข้อความว่า “หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต” และด้านล่างมีข้อความว่า “วัดอุดมคงคาคีรีเขต” ด้านหลังเหรียญตรงกลางบอกปีที่จัดสร้าง “๒๓ พ.ย.๑๒” ข้างบนและข้างล่างเป็นอักขระเลขยันต์
หลวงพ่อผาง ประวัติ
หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต นามเดิม ผาง ครองยุติ เกิด วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2445 ตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล ณ บ้านกุดกะเสียน ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่ออายุได้ 20 ปี (พ.ศ.2465) ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ตามประเพณีลูกผู้ชายชาวไทย และทดแทนพระคุณบิดามารดา สังกัดคณะมหานิกาย ณ วัดเขื่องกลาง บ้านเขื่องใน ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
มีพระครูดวน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ดี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ศึกษาพระธรรมวินัย มีความรู้พอสมควร เมื่อบวชได้ 1 พรรษา จึงได้ลาสิกขาจากสมณเพศ ครั้นอายุได้ 23 ปี ได้แต่งงานมีครอบครัวกับนางสาวจันดี สายเสมา คนบ้านแดงหม้อ ต.แดงหม้อ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี อยู่ด้วยกันมา 21 ปี ไม่มีบุตร มีแต่บุตรบุญธรรม
ต่อมาเมื่ออายุได้ 43 ปี จึงได้ชวนกันกับภรรยาออกบวช ภรรยาได้บวชเป็นแม่ชี ท่านได้มอบสมบัติทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดให้แก่นางหนูพาน ผู้เป็นบุตรบุญธรรม ส่วนตัวท่านได้เข้าอุปสมบทอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 ในคณะมหานิกายเช่นเดิม ที่วัดคูขาด บ้านศรีสุข ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี มีพระครูศรีสุตตาภรณ์ (ตื๋อ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ไม่ปรากฏ หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดคูขาด บ้านศรีสุข อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี แต่ท่านได้เข้าศึกษาอบรมพระกรรมฐาน อยู่ในสำนักวัดป่าวารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม (เจ้าคุณพระญาณวิศิษฎ์) และท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล และได้ทำการญัตติกรรมในคณะธรรมยุติ
เมื่ออายุได้ 47 ปี ณ วัดบ้านโนนหรือวัดทุ่ง โดยมีพระครูพินิจศีลคุณ (พระมหาอ่อน เจ้าคณะอำเภอเขื่องใน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาทราย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาจันทร์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2491 แรม 2 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ซึ่งเป็นการอุปสมบทเป็นครั้งที่ 3 ของท่าน “หลวงพ่อผาง” ได้ปฏิบัติฝึกอบรมกรรมฐานอยู่ในสำนักท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม พอสมควรแล้วก็ได้ออกธุดงค์ ปฏิบัติกรรมฐานไปวิเวกโดยลำพัง และได้เข้าอบรมอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าบ้านนามน จ.สกลนคร ได้พอสมควร ก็ท่องเที่ยววิเวกไปแต่ผู้เดียวในป่าเขา จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาหลายปี ต่อมาในปี พ.ศ.2492 ได้มาพักจำพรรษาที่วัดป่าบัลลังก์ศิลาทิพย์ บ้านแทน ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น จำพรรษาได้ 1 พรรษา พอออกพรรษาแล้วท่านจึงได้เดินธุดงค์ไปทางอำเภอมัญจาคีรี ชาวบ้านโสกใหญ่ บ้านดอนแก่นเฒ่า บ้านโสกน้ำขุ่น ได้พร้อมใจกันมานิมนต์หลวงปู่ ไปพักภาวนาที่เชิงเขาภูผาแดง อ.มัญจาคีรี ชาวบ้านเรียกสถานที่นั้นว่า “ดูน” เนื่องจากมีน้ำไหลออกมาจากภูเขาตลอดปี ชาวบ้านแถวนั้นถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีพระรูปใดเข้าไปอยู่ได้ และที่ตรงนี้เองที่ตรงกับที่ท่านเห็นในสมาธินิมิตทุกประการ ท่านจึงได้ชวนชาวบ้านสร้างเป็นวัด ชาวบ้านทั่วไปจึงเรียกว่า “วัดดูน” ตั้งแต่นั้นมา หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วัดอุดมคงคาคีรีเขต” แปลว่า วัดที่อุดมไปด้วยน้ำและมีภูเขาเป็นเขต ตั้งแต่พ.ศ.2493 ท่านจึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดูนนี้เรื่อยมา และก็ได้เดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ได้ผจญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้มาอย่างดี จึงกล่าวว่าท่านเป็นพระนักปฏิบัติและพระสุปฏิปันโนอย่างแท้จริงได้องค์หนึ่ง “หลวงพ่อผาง” มรณภาพ ในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2525 สิริอายุได้ 80 ปี 34 พรรษา
#ป๋องสุพรรณการันตี
source
ขอขอบคุณบทความและ RssFeedของThairath.com ครับ