เปิดตำนาน 7 เรื่องสุดหลอนในไทย

สยามออราเคิล โดยครูเชฟ |

บทความRSS Feed จาก InnNews.com

          ว่ากันว่า “ตำนาน” คือสิ่งที่เล่าขานต่อกันมา ผ่านคนแล้วคนเล่าที่จะพาทุกคนไปเชื่อมต่อ ความเชื่อ ลึกลับ ผ่านอดีตกาลสู่ ณ ปัจจุบัน ชวนขนลุก เกินกว่าจะหยั่งถึง ที่ไทยเราก็มีเรื่องลึกลับที่โด่งดัง จนถูกหยิบยกนำมาทำเป็นภาพยนตร์หรือ จะเป็นเล่าสู่เหตุการณ์ที่ได้เจอกับตัวผ่านรายการดังมากมาย

และในวันนี้เราจะพาไปรู้จักตำนาน 7 เรื่องสุดหลอนในไทย จะมีที่ไหน มีเรื่องอะไร ที่ทุกคนรู้จักบ้างไปตามกันเลย

 

แม่นาคพระโขนง : เขตสวนหลวง จ.กรุงเทพ

           ขอเปิดเรื่องเล่าแรกด้วยความหลอนที่ ใครหลายคนต่างต้องรู้จัก อย่าง แม่นาคพระโขนง

          หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ที่สิ้นใจระหว่างคลอดลูก ทำให้ต้องตายทั้งกลม ความเฮี้ยนของนางนาคเป็นที่เลื่องลือไปทั่วบางพระโขนง เฝ้ารอคอยคนรักอย่าง “มาก” กลับมา เมื่อคนรักลับมา “นาค” ก็คอยรั้ง “มาก” ให้อยู่แต่บ้าน เพราะกลัวว่าชาวบ้านจะบอกความจริงว่าตนนั้นตายไปแล้ว 

วันหนึ่งนาง “นาค” ได้ทำมะนาวตกลงไปใต้ถุนบ้าน จงยืนมือลงไปเก็บ ในระหว่างนั้น “มาก” ผู้เป็นคนรักจึงได้เชื่อว่าแท้จริงแล้ว “นาค” เป็นผีอย่างที่ชาวบ้านลือกันด้วยความกลัวมากจึงหนีออกไปอยู่วัด

นางนาคโกรธที่ชาวบ้านที่ยุแยงคนรักของตนจึงออกอาละวาดอย่างหนัก ท้ายที่สุดได้ถูก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงด้วยการ ตอกกะโหลกศีรษะ ส่วนหน้าไปทำ ปั้นเหน่งเพื่อสะกดวิณญาณ และส่งนางนาคไปสู่สุคติ

          เรื่องรางตำนานความรักที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังหลายต่อหลายครั้งและในปัจจุบันยังศาลให้กราบไหว้ ชื่อว่า ย่านาคพระโขนง เด่นในเรื่องความรัก โชคลาภ ขอลูก ปัจจุบันตั้งอยู่ เขตสวนหลวง จ.กรุงเทพ

 

ลิฟต์แดง : ม.ธรรมศาสตร์

          จะขอพาย้อนกลับไปในยุคสมัยประชาธิปไตยแบบครึ่งใบ การกลับมาของ “จอมพลถนอม” เป็นตัวแปรสำคัญ 

นำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ในขณะที่หนีตาย มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งได้ใช้ลิฟต์ แต่เมื่อประตูเปิดกลับพบกับทหารที่รออยู่ก่อนแล้ว ได้กระหน่ำยิงนักศึกษาที่อยู่ในลิฟต์จนเสียชีวิตทั้งหมด 

หลังจากทุกอย่างคลี่คลายกลับพบคราบเลือดที่ติดอยู่ทั่วลิฟต์  ทั้งยังไม่สามารถทำความสะอาดให้ออกได้ จึงทาทับคราบเลือดด้วยสีแดง จึงเป็นมาของชื่อตำนาน “ลิฟต์แดง”

          จากเหตุการณ์นั้น นักศึกษาหลายคนได้พบเจอกับเรื่องประหลาด บางก็ว่าขึ้นลิฟต์แล้ว มีสัญญาณเตือนว่าน้ำหนักเกิน บางก็ว่าเห็นคนอยู่ในลิฟต์เป็นจำนวนมากทั้งๆ ขึ้นคนเดียว 

เป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก จึงถูกนำไปถ่ายทอดผ่านหนัง บอกเล่าถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

 

ขบวนแห่ไร้หัว : ม.ดังภาคเหนือ

          หนึ่งในสิ่งลี้ลับดังของม.ดัง อีกเรื่องของภาคเหนือ อย่าง “ตำนานขบวนแห่ไร้หัว” หรือ “ขบวนแดง” เป็นเรื่องราวความรักต่างชนชั้น ของเจ้านางเชียงใหม่ลูกสาวเจ้าเมือง ได้รักกับทาสแบกเสลี่ยงตัวเอง  

เจ้าเมืองรู้เรื่องเข้า ทำให้โกรธมากในความรักต่างชนชั้นนี้ ทรงมีรับสั่งให้สังหารในขณะเจ้านางนั่งเสลี่ยงไปชมป่าไม้ ให้ฆ่าทาสคนรักต่อหน้าเจ้านางผู้เป็นลูกสาว พร้อมทาสที่แบกเสลี่ยงทุกคน ด้วยการตัดหัว  เจ้านางเสียใจมากถึงขั้นฆ่าตัวตายตาม 

เรื่องราวถูกเล่าสืบต่อกันมาว่า คืนวันเข้าพรรษาทุกปี ขบวนเจ้านางพร้อมทาสไร้หัว จะเดิมผ่านเส้นทางก่อนที่จะตาย ว่ากันว่าถ้าได้ยินเสียงขบวนเดินของเจ้านางห้ามออกจากห้อง นอกจากนี้ข่าวลือว่า มีเด็กหอชายคนหนึ่งได้เห็นขบวนเจ้านางและได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

สิ่งที่น่าแปลกคือภาพวาดที่เหลือทิ้งไว้ เป็นภาพขบวนคนแบกเสลี่ยงที่ไร้หัว แต่ที่แปลกออกไปคือ มีหนึ่งคนในขบวนที่แต่งตัวเหมือนชุดนักศึกษาแต่ไม่มีหัว เป็นเรื่องที่ถูกเล่าต่อกันมาจนปัจจุบัน ในรั้ว ม.ดังแห่งนี้สืบต่อไป

 

หงส์ยักษ์ : วัดห้วยลึก จ.ประจวบคีรีขันธ์

          หากใครมีโอกาสเดินทางไปภาคใต้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านวัดห้วยลึก คงได้เห็นหงส์ยักษ์ตัวใหญ่ ลำตัวสีขาวตัดสีทองเด่นสง่า ปากมีลักษณะแหลมยาวยื่นออกมาถนน ปลายปากมีระฆังขนาดใหญ่ห้อยลงมา ตั้งหันหน้าเข้าถนน อยู่ข้างทางเข้าวัดห้วยลึก 

ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของอาถรรพ์อุบัติเหตุ ชาวบ้านที่ผ่านมา มักเห็นคราบสีแดงเหมือนเลือดตรงบริเวณปากหงส์ยักษ์ แต่สิ่งที่เล่าตรงกัน คือ ผู้คนที่กำลังขับรถผ่าน ขณะขับผ่านได้เห็นหงส์ยักษ์ยืนอยู่อีกฝั่งของถนน 

          เล่าขานกันว่าหงส์ตนนี้ อยู่ด้วยความโดดเดี่ยว จึงออกตามหาลูก แต่อีกเรื่องราวก็บอกว่าหงส์ตัวนี้ฆ่าคนเพื่อบูชาแก่ตนเองเพราะความเหงา ความเฮี้ยนถูกบอกเล่าไปทั่ว ทางวัดจึงทาสีใหม่ให้เป็นสีทองทั้งตัว นอกจากนี้ยังเอาระฆังตรงปลายปากหงส์ออก ใส่กำไลข้อเท้าและสร้างหงส์ตัวเล็กให้เป็นคู่ 

เชื่อว่าหงส์ยักษ์จะสงบและไม่ออกไปไหนอีก ปัจจุบันเป็นที่โด่งดังและรู้จักจากการบอกเล่านี้ทำให้ผู้คนต่างเดินทางมากราบไหว้ขอโชค นอกจากนี้ยังสร้างชื่อเสียงให้กับวัดห้วยลึกอีกด้วย

 

พระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว : ภาคอีสาน

          ถ้าจะพูดถึงความเชื่อสุดหลอนภาคอีสาน คงไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือ “ปอบ” หลายคนยังไม่รู้ว่าปอบมีหลายรูปแบบ และหนึ่งในที่น่ากลัวที่สุด คือ ปอบในร่าง “พระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว”

          ตามที่เล่าขานกันคือ พระอุ้มหมาดำ ชีอุ้มแมวดำ โดยสบงของพระจะขาดและเก่ามากเดินคู่กันไปเรื่อยๆ เคาะตามบ้านหรือเรียกตามบ้าน เดิมทีเป็นพระกับแม่ชีที่อยู่วัดปกติ  แต่กลับชอบเล่นของคุณไสย

ต่อมาถูกขับไล่ออกจากวัด เลยอุ้มปอบที่เลี้ยงไว้คือหมาและแมว ออกเดินไปตามหมู่บ้าน เรียกเคาะตามบ้านให้คนเปิดประตูเพื่อสังเวยให้ปอบกิน หากถ้าใครขานรับหรือเปิดประตู จะต้องพบเจอกับอันเป็นไป หรือเสียชีวิตแบบไร้สาเหตุและที่แปลกคือพบว่า เครื่องในหรืออวัยวะของคนตายกลับไม่พบอยู่เลย

ความเชื่อนี้โด่งดังมากยิ่งขึ้นจากข่าว เมื่อหลายปีก่อน โดยชาวบ้านกล่าวว่า ผู้คนต่างเสียชีวิตเพราะ ปอบ พระอุ้มหมา ชีอุ้ม และมีพยานยืนยันหลายคนเกี่ยวกับสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้ว่า เป็นเรื่องจริง ที่มีอยู่จนถึงปัจจุบัน

 

ผีจ้างหนัง : ป่าคำชะโนด

          ใครยังจำได้กับภาพยนตร์ดังใน ยุค 90 ที่มีแรงบันดาลใจสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่คำชะโนด กับ ผีจ้างหนัง อีกหนึ่งเรื่องลี้ลับที่เล่าขานกันมานานของคำชะโนด ชายคนหนึ่งเดินทางไปในตัวเมืองอุดรธานีเพื่อว่าจ้าง “คณะฉายหนังเร่แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ” ให้ไปทำฉายหนังในคำชะโนด และได้ตกลงทำสัญญา 

เมื่อเดินทางเข้าไปกับพบว่าบรรยากาศกลับ ขนลุก และน่ากลัว เป็นอย่างมาก ตามสัญญาคณะเริ่มฉายหนัง ผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาดูจนเต็มพื้นที่ พอใกล้รุ่งสางได้มีคนเดินมาบอกให้หยุดฉาย แล้ว ให้เก็บของไปก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น

แต่แล้วกลับพบความจริงว่า ชายคนหนึ่งยืนยันว่าจ้างให้มาฉายที่หมู่บ้านวังทอง ไม่ใช่คำชะโนดแต่อย่างใด พร้อมทั้งยังยืนยันอีกว่ารถไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะถนนเป็นโคลน เจ้าของคณะฉายหนังจึงได้กลับไปหาความจริง พบว่ามีรอยรถของคณะฉายหนังลงไปจริงๆ แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือที่ตรงนั้นเป็นป่า ซึ่งคนสมัยนั้นเรียกแถวนี้นว่า เมืองบังบด และยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้

 

ชุดครุยที่ตึกวิทย์เก่า :ม.มศว

          ขอปิดท้ายด้วยเรื่องเล่าที่เล่าต่อๆกันมา จากมหาวิทยาลัย มวศ. ที่ตึกวิทย์เก่า ข้างในตึกจะมีตู้กระจกตั้งอยู่ ของที่อยู่ข้างใน คือชุดครุย ส่วนตรงฐานตั้งชุดจะมีพวกมาลัยเหี่ยวแห้งวางบูชาไว้ ว่ากันว่า ชุดครุยนี้คือ ชุดครุยของนักศึกษาสาวหนึ่งนึงที่ได้เสียชีวิตกะทันหันในวันรับปริญญา เล่ากันว่านักศึกษาสาวคนนี้ เป็นคนที่ตั้งใจเรียนทั้งยังมีความมุ่งมั่นที่อยากจะรับปริญญา แต่เมื่อเธอเสียชีวิตไป 

เรื่องราวขนหัวลุกจึงได้เริ่มต้นขึ้น วิญญาณได้ออกมาหลอกหลอนผู้คน ทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะมีนักศึกษากระโดดตึกฆ่าตัวตายในวันรับปริญญาในปีถัดมา หรือออกมาเดินใส่ชุดครุยให้นักศึกษาได้เห็น 

ทำให้มีการเอาชุดครุยมาตั้งใส่ตู้กระจกและ มีพวกมาลัยวางบูชาไว้เพื่อให้วิญญาณสงบ หลังจากนั้นเรื่องเล่านี้ได้กลายเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาในมหาลัย และยังคงมีตู้กระจกจัดแสดงชุคครุยอยู่จนปัจจุบัน 

 

          จากตำนานสู่เรื่องจริงที่ให้ผู้คนได้พบเจอเรื่องสุดหลอนทนไม่ไหวต้องออกมาเขียนเปิดเรื่องเล่าขาน ให้ทุกคนได้รู้ อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้างกับ เปิดตำนาน 7 เรื่องสุดหลอน ในไทย 

เรื่องราวที่หยิบยกมาทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความหลอนเท่านั้น แต่รับรองว่าถ้าได้อ่านแล้วไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ส่วนใครที่อยากรู้เรื่องไหนก็สามารถบอกกันได้น้าาา

อ้างอิงภาพจาก:      https://www.blockdit.com

          https://www.sanook.com

          https://truevisions.co.th

          https://ghostsfolder.com

          https://www.matichon.co.th

          https://pantip.com/topic/42696732/desktop

          https://www.blockdit.com

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews


source
ขอขอบคุณบทความและ RssFeedของ InnNews.com

สยามออราเคิล โดยครูเชฟ |

Related Posts

ดูดวงรายวันประจำวันศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม 2568 สำหรับท่านที่เกิดวันอังคาร

ดูดวงรายวันประจำวันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม 2568 สำหรับท่านที่เกิดวันเสาร์

StatCounter - Free Web Tracker and Counter